ในปี 2020 ปฏิเสธไม่ได้ว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการพัฒนาของทุกประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นจีนได้แสดงถึงศักยภาพที่น่าทึ่งมากมายสู่สายตาชาวโลกเช่นเดียวกัน โดยการสร้างนวัตกรรมเป็นพลังขับเคลื่อนการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม ด้วยจุดแข็งทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการก้าวขึ้นมาเป็นประเทศต้นแบบและเป็นผู้นำทางด้าน Digital Lifestyle ส่งผลให้จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับต้นๆ ของโลก ที่สำคัญยังกลายเป็น “แพลตฟอร์มแก้จน” ของคนจีนด้วย
การทำสงครามแก้จนของจีนด้วยหลักคิดใช้การเกษตรแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน โดยอาศัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมมาปรับใช้ เปิดโอกาสให้คนจนในชนบทซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรมให้สามารถเดินหน้าได้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งภาครัฐใช้วิธีการดึงอุตสาหกรรมเข้ามาช่วย เช่น ในชนบทมีสินค้าเกษตรหรือภูมิศาสตร์อะไรที่โดดเด่น ภาครัฐก็นำอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยพัฒนา เพิ่มมูลค่าสินค้า หาช่องทางระบายสินค้าเพิ่มเติมในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
นอกจากนั้น ภาครัฐยังส่งเสริมการอุปโภคบริโภคเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผ่านโครงการผลักดันอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซด้วยการจัดกิจกรรมโปรโมชั่น อาทิ การถ่ายทอดสดแบบออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น TikTok / Kwai / Fujian Radio & Television Network รวมถึงการทำโปรโมชั่นแจกคูปองส่วนลดผ่านแอพพลิเคชั่น Taobao/Tmall/UnionPay เป็นต้น การใช้โมเดลบูรณาการระหว่างระบบ 5G กับการผลิต การใช้เทคโนโลยีของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีน เช่น Alibaba, Tencent, JD.com และอื่นๆ เข้าไปช่วยคนชนบทให้สามารถขายสินค้าการเกษตรและสินค้าอื่นๆ ผ่านระบบออนไลน์
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีหน้าที่ในการนำเสนอขายแบบครบวงจร ได้แก่ การแสดงผลออนไลน์ การซื้อขายออนไลน์ การติดตามโลจิสติกส์ การชำระเงินออนไลน์ และการติดตามสินค้า
ตัวอย่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่สนับสนุนการบริโภคผลิตภัณฑ์จากพื้นที่ชนบทเพื่อสนับสนุนการบรรเทาความยากจน ได้แก่
1) แพลตฟอร์มของ Alibaba สามารถจำหน่ายสินค้าการเกษตรผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในปี 2562 ด้วยยอดจำหน่ายสูงถึง 9.74 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.4 แสนล้านบาท)
2) แพลตฟอร์ม JD.com สามารถจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ได้มากกว่า 3 ล้านรายการ มียอดจำหน่ายมากกว่า 1 แสนล้านหยวน (ราว 5 แสนล้านบาท) ซึ่งส่งผลให้เกิดรายได้แก่ครัวเรือนยากจนมากกว่า 1 ล้านครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2020)
3) แพลตฟอร์มฟู่ผิ่น 832.com (fupin832.com) ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก 832 อำเภอที่อยู่ในบัญชีรายชื่อพื้นที่ยากจนของรัฐบาลจีน ก่อตั้งโดยสมาพันธ์สหกรณ์การตลาดและการจัดซื้อแห่งประเทศจีน กระทรวงพานิชย์ และสำนักงานกลุ่มผู้นำการบรรเทาความยากจนและการพัฒนาแห่งคณะรัฐมนตรีจีน มียอดจำหน่ายสูงถึง 3.1 พันล้านหยวน (ราว 1.42 ล้านบาท) (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2020)
อนึ่ง เมื่อมีการขายของผ่านออนไลน์ก็ต้องมีระบบโลจิสติกส์ อันหมายถึงการส่งของตามคำสั่งไปถึงบ้านด้วยระบบการส่งของทั่วประเทศ ส่งผลให้มีการสร้างงานระดับท้องถิ่นอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกันก็สามารถช่วยให้ชาวไร่ชาวนาในถิ่นห่างไกลเข้าถึงตลาดข้างนอกได้ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
การดำเนินนโยบายขจัดความยากจนที่สัมฤทธิ์ผลของจีนได้อาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะภาคเอกชนที่มีศักยภาพดังตัวอย่างแพลตฟอร์ม Alibaba JD.com และฟู่ผิ่น ที่ได้เข้ามามีบทบาทในการจำหน่าย การหาช่องทางจำหน่ายและการเชื่อมตลาดระหว่างผู้ผลิตในเขตชนบทกับผู้บริโภคในเขตเมือง ส่งผลให้คนในชนบทสามารถขายสินค้าและมีรายได้เกิดผลให้หลุดพ้นความยากจนได้อย่างยั่งยืน