จากการที่กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงของกัมพูชาและสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of China Customs: GACC) ได้ลงนามในพิธีสารว่าด้วยข้อบังคับสุขอนามัยพืช เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 นำไปสู่การส่งออกมะม่วงสดจากกัมพูชาไปจีน (มะม่วงสดเป็นผลไม้ชนิดที่ 2 ของกัมพูชา ที่สามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างเป็นทางการถัดจากกล้วย) อีกทั้งกัมพูชามีแผนส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนเพิ่มขึ้นในอนาคต อาทิ ลำไย ทุเรียน ส้มโอ
วันที่ 26 เมษายน 2564 สำนักงาน GACC ได้ประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนสวน จำนวน 37 แห่ง และโรงคัดบรรจุ จำนวน 5 แห่ง ของกัมพูชาเพื่อส่งออกมะม่วงไปจีนได้อย่างเป็นทางการแล้ว
วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 กัมพูชาส่งออกมะม่วงสดล็อตแรกไปจีนผ่านท่าเรือชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นจุดสำคัญบนระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) จำนวน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ คิดเป็น 147 ตัน โดยมะม่วงจะถูกกระจายไปจำหน่ายในเมืองต่างๆ อาทิ กรุงปักกิ่ง มณฑลเหอหนาน มณฑลเหลียวหนิง มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลซานตง
ในปี 2563 ประเทศจีนนำเข้ามะม่วง (พิกัดศุลกากร 08045020) คิดเป็นน้ำหนักรวม 84,137 ตัน มูลค่าการนำเข้า 533.98 ล้านหยวน โดยแหล่งนำเข้าหลักมาจากเวียดนาม จำนวน 341 ล้านหยวน หรือ คิดเป็นร้อยละ 63.86 และ ไทย จำนวน 87.72 ล้านหยวน หรือ คิดเป็นร้อยละ 16.43 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนนำเข้ามะม่วงสดจากเวียดนามและไทยเป็นหลัก แต่ผู้ส่งออกไทยก็ควรคำนึงถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ (packaging) ที่สามารถปกป้องผลมะม่วงระหว่างการขนส่ง เนื่องจากมะม่วงเป็นผลไม้เปลือกบางบอบช้ำง่าย การใช้ระบบโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็น (cold chain) เพื่อรักษาความสดใหม่ การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce ที่เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงการเลือกเส้นทางการขนส่ง ซึ่งเป็นการหมายรวมถึงผลไม้ชนิดอื่นด้วย เนื่องจาก ผลไม้แทบทุกชนิดของกัมพูชาสามารถปลูกได้เหมือนที่ไทยปลูก อาทิ ทุเรียน มังคุด ลำไย กล้วย มะพร้าว สับปะรด แตงโม แคนตาลูป ส้มเกลี้ยง ส้มโอ และองุ่น เพื่อเพิ่มคุณค่า รักษาคุณภาพ และครองสัดส่วนทางการตลาดผลไม้ไทยในจีนอย่างยั่งยืน
เรียบเรียงโดย: สรวรรณ พ่วงแสง นักวิจัย ศูนย์อาเซียน จีนศึกษา
แหล่งที่มา:
https://bit.ly/3i2aPBd
https://www.thebangkokinsight.com/news/world-news/628817/
รูปภาพ:
https://bit.ly/3vI7ED2