ปัจจุบันจีนมีวัคซีน 3 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ซึ่งวิจัยและพัฒนาโดย 1) สถาบันวิจัยแพทย์ทหาร 2) บริษัท China National Pharmaceutical Group (Sinopharm) และ 3) Sinovac Biotech Ltd.
หนังสือพิมพ์ของฮ่องกง Nanhua Zaodao รายงานว่า หากวัคซีนของ Sinopharm ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติจีน คาดว่าราคาจะสูงถึง 44 เหรียญสหรัฐฯ /โดส โดยต้องฉีด 2 โดส จึงจะสามารถกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งราคาดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสวิพากวิจารน์ในโลกออนไลน์ถึงราคาที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับวัคซีนของประเทศอื่น
ทั้งนี้ Sinopharm ได้ทดลองใช้วัคซีนกับอาสาสมัคร ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศรวมถึงบุคคลากรที่มีความเสี่ยงสูงกว่า 1 แสนคน โดยวัคซีนดังกล่าวไม่มีผลข้างเคียงหรือทำให้ติดเชื้อ
ตัวแทนของ Sinopharm ได้ชี้แจงว่ายังไม่มีการตั้งราคาของวัคซีนก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และราคาจะต้องพิจารณาหลายๆ ปัจจัยทั้งเรื่องของความปลอดภัย ประสิทธิผล และราคาที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนการผลิตวัคซีนและสัดส่วนการลงทุนของรัฐบาลจีนด้วย
ต่อกระแสข่าวดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศจีน ต้องรีบออกมาย้ำท่าทีของจีนทันที เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 ว่าจีนจะแบ่งปันวัคซีนในราคาที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผลให้นานาประเทศในฐานะสินค้าสาธารณะ ในขณะเดียวกันจีนจะใช้วิธีบริจาคหรือส่งมอบวัคซีนโดยการช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขให้กับประเทศกำลังพัฒนา “คำมั่นสัญญาของจีนชัดเจน และ จีนรักษาคำพูดเสมอ” นาย Wang Wenbin โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว
ก่อนหน้านี้ จีนเคยให้คำมั่นว่าหากวัคซีนจีนสามารถใช้ได้แล้ว จีนจะแบ่งปันวัคซีนให้แก่ประเทศพันธมิตรแถบลุ่มแม่น้ำโขงก่อนเป็นลำดับแรก แต่ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าราคาวัคซีนในประเทศจีนจะเหมือนหรือต่างกับราคาที่ขายให้กับประเทศอื่นหรือไม่
เมื่อสำรวจราคาของฝั่งสหรัฐฯ พบว่า วัคซีนที่ร่วมวิจัยและพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกับบริษัทยา AstraZeneca มีราคาถูกที่สุดเพียง 4 เหรียญสหรัฐฯ /โดส โดยเป็นราคาตามสัญญาสั่งซื้อระหว่างสหรัฐฯ กับ AstraZeneca ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ได้สนับสนุนเงินทุน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อการวิจัยและพัฒนา และหากสำเร็จสหรัฐฯ จะได้รับวัคซีน 300 ล้านโดส
ทั้งนี้ กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐฯ (HHS) ระบุว่าชาวอเมริกันจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรีและจะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีน
AstraZeneca ได้แสดงจุดยืนว่าจะไม่แสวงหากำไรจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ โดยตั้งเป้าจะจำหน่ายในราคาไม่เกิน 4 เหรียญสหรัฐฯ/โดส ให้แก่ประเทศละตินอเมริกา และราคาไม่เกิน 3 เหรียญสหรัฐฯ/โดส ให้แก่อินเดีย
ขณะเดียวกันบริษัท Johnson & Johnson ได้ตกลงราคาสั่งซื้อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประมาณ 10 เหรียญสหรัฐฯ /โดส
บริษัท Pfizer ก็ได้ตกลงราคาสั่งซื้อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ 20 เหรียญสหรัฐฯ /โดส
และ บริษัท Moderna ได้ตกลงราคาสั่งซื้อกับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ 32-37 เหรียญสหรัฐฯ /โดส
บทสรุปของราคาวัคซีนโควิด-19 ของสองชาติมหาอำนาจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ที่มาข้อมูล :
https://www.bbc.com/zhongwen/simp/world-54277046
http://www.xinhuanet.com/2020-09/30/c_1126565250.htm
ที่มาภาพ :
https://www.bbc.com/zhongwen/simp/world-54277046
เรียบเรียงโดย : ศิริลักษณ์ พรหมรักษ์ (นักวิจัยศูนย์อาเซียน-จีนศึกษา)