เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย.จีนส่งดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาดวงใหม่ขึ้นสู่วงโคจร จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมซีชางมณฑลเสฉวน
ดาวเทียม Fengyun-4B (FY-4B) ถูกปล่อยโดยจรวด Long March-3B เมื่อเวลา 00:17 น. (เวลาปักกิ่ง) FY-4B จะถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์และพยากรณ์อากาศ รวมถึงการติดดตามด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ ดาวเทียมและจรวดได้รับการพัฒนาโดย สำนักเทคโนโลยีการบินอวกาศแห่งเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Academy of Spaceflight Technology) และ สถาบันเทคโนโลยีจรวดขนส่งแห่งชาติจีนเทคโนโลยี (China Academy of Launch Vehicle Technology) ซึ่งทั้งสองหน่วยงานนี้อยู่ภายใต้บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศแห่งประเทศจีน (China Aerospace Science and Technology Corporation)
FY-4B จะมีอายุการใช้งานนานกว่า 7 ปี และมีประสิทธิภาพสูงกว่าดาวเทียมรุ่นเก่าและจะทำงานร่วมกับ FY-4A ซึ่ง FY-4B จะเพิ่มประสิทธิภาพที่มีความถี่สูง ความละเอียดสูง และความไวสูง สามารถถ่ายภาพพื้นที่หนึ่งล้านตารางกิโลเมตรได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 นาที โดยอิงภาพจาก FY-4A ที่ถ่ายภาพประเทศจีนและพื้นที่โดยรอบทุก ๆ 5 นาที ประสิทธิภาพเหล่านี้จะช่วยให้นักพยากรณ์อากาศมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในสังเกตโครงสร้างและวิวัฒนาการของภัยพิบัติสภาพอากาศระดับกลาง เช่น พายุไต้ฝุ่น พายุฝน
FY-4B มีความไวในการตรวจจับและความแม่นยำที่สูงกว่า FY-4A สามารถจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำถึง 0.05 องศาเซลเซียสในชั้นบรรยากาศของโลกที่ระยะทาง 36,000 กิโลเมตร ซึ่งผลการตรวจวัดอุณหภูมิกับอุณหภูมิจริงมีค่าคลาดเคลื่อนต่างกันแค่ 0.5 องศาเซลเซียส
กว่า 50 ปีที่ผ่านมา อุตุนิยมวิทยาของจีนมีความก้าวหน้าอย่างมาก ขณะนี้จีนได้ปล่อยดาวเทียม Fengyun ทั้งหมด 18 ดวง มี 8 ดวงที่อยู่ในวงโคจร และมีกำหนดจะเปิดตัวเพิ่มในอีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ดาวเทียม Fengyun ให้ข้อมูลและบริการแก่ 118 ประเทศและภูมิภาค
การนำเทคโนโลยีนั้นสามารถต่อยอดนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากขึ้น มีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ วางแผนแผนการเพาะปลูกเก็บเกี่ยวทางการเกษตรได้
ถ้าไทยสามารถนำเทคโนโลยีดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาของจีนมาผสานงานร่วมกับเทคโนโลยีอุตุนิยมวิทยาที่มีอยู่ของไทย จะทำให้ไทยสามารถต่อยอดนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมากขึ้น เช่น มีการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ วางแผนแผนการเพาะปลูกเก็บเกี่ยว ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้
แหล่งที่มา
http://www.xinhuanet.com/english/2021-06/03/c_139986992.htm
http://www.xinhuanet.com/tech/2021-06/03/c_1127523695.htm
ที่มารูปภาพ