เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 Prof.Dr.Tang Zhimin ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียน-จีนศึกษา สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ พร้อมคณะวิจัย ได้สัมภาษณ์ คุณประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดราชบุรี เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่องานวิจัยในประเด็นการส่งออกผลไม้ไทยสู่ตลาดจีน
จังหวัดราชบุรีมีผลไม้ศักยภาพ ประกอบด้วย
1) มะพร้าวน้ำหอม ของจังหวัดราชบุรีมีพื้นที่ปลูก 166,000 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนกับภาครัฐจำนวน 66,000 ไร่ และอีก 100,000 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกที่ไม่ขึ้นทะเบียนกับภาครัฐ โดยพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกได้ 25 ต้น ให้ผลผลิตภายในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง เก็บผลผลิตได้ 15-18 ครั้ง/ปี
อนึ่งมะพร้าวน้ำหอมของราชบุรีมีค่าความหวานอยู่ที่ประมาณ 10 บริกซ์ เนื่องจาก พื้นที่ปลูกมีความเหมาะสมเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มปากแม่น้ำที่มีดินตะกอนและแร่ธาตุที่เหมาะ ส่งผลให้มะพร้าวน้ำหอมของราชบุรีได้รับการรับรอง GI ในปี 2558
2) ชมพู่ ของราชบุรีมีการผลิตที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยอาหารสากล (British Retail Consortium: BRC) ของยุโรป มาตรฐาน USDA ของสหรัฐอเมริกา และ ตราสัญลักษณ์ fair trade เพื่อการส่งเสริมการพัฒนาระบบการค้าที่เป็นธรรมอย่างยั่งยืน
3) สับปะรด สายพันธุ์ MD2 เป็นสับปะรดที่เหมาะกับการทานผลสด โดยสับปะรดของราชบุรีได้รับการรับรอง GI แล้ว ขณะที่สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียร้อยละ 90 มีการส่งออกในลักษณะการแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง
ทั้งนี้ มองว่าการนำเข้าผลไม้ไทยของจีนนับว่าเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในด้านการยกระดับราคาให้สูงขึ้น ดังตัวอย่าง ทุเรียน จากเดิมราคาอยู่ที่ 40 บาท/กิโลกรัม แต่เมื่อมีผู้ค้าชาวจีนเริ่มเข้ามารับซื้อส่งผลให้ระดับราคาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 100 บาท/กิโลกรัม โดยมีต้นอยู่ที่ 20 บาท/กิโลกรัม